/*----Yahoo site map-------*/ /*----Bing site map-------*/

ค้นหาอะไรก็เจอ

วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

คำทำนายภัยพิบัติในประเทศไทย


ขอขอบคุณรูปภาพจาก http://www.tnews.co.th/


สถานที่แห่งแรกในประเทศไทย
ที่จะได้เผชิญกับลาวาร้อนจากไฟใต้โลก
จะเกิดขึ้นจากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดแรกในภาคอีสาน
ตามรอยต่อของจังหวัดที่ติดกันเป็นแนวยาว
เริ่มแรกจะมีลักษณะเป็นแนวแยกของแผ่นดินคดเคี้ยว
ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ธารโลหะร้อนจะไหลลามแผ่ออกไปเป็นบริเวณกว้าง
ข้ามวันข้ามคืนติดต่อกัน
จากนั้นพายุที่รุนแรงจะนำน้ำมาดับไฟ
ก่อให้เกิดนำท่วมและโรคร้ายที่จะระบาดอย่างรุนแรง
จนสุดที่จะเยียวยาได้
โดยเฉพาะอหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่
ที่มนุษย์เชื่อว่าได้กำจัดมันจนหมดไปจากโลกนี้แล้ว
แต่หารู้ไม่ว่ามันกำลังฟักตัว
และจะมีฤทธิ์ร้ายแรงกว่าตอนที่ถูกมนุษย์ปราบมันไปตอนนั้นเสียอีก
ซึ่งมันสามารถคร่าชีวิตผู้รับเชื้อได้ในระยะเวลาเพียงวันเดียวเท่านั้น

**********************************

ท้องฟ้ามืดมิด ฝนจะเริ่มตกหนักทั่วโลกอย่างไม่หยุดยั้ง
น้ำจะเอ่อขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าท่วมแผ่นดินในหลายๆ พื้นที่
พายุไซโคลนจะพัดกระหน่ำ
ซึ่งจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 160 กม./ชม.
พัดผ่านกรุงเทพ ผ่านช่องแม่น้ำเจ้าพระยา
ตึกแห่งหนึ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ที่อยู่ใกล้กับสะพานกลางเก่ากลางใหม่
ในย่านฝั่งธนบุรีจะพังทลายลงมา
จากการโหมกระหน่ำและความบ้าคลั่งของลมพายุ
มีผู้เสียชีวิตในครั้งนี้มีไม่ต่ำกว่า 600 คน

ในเวลาหลังจากนั้นไม่นานนัก
ตึกสีขาวที่อยู่ริมแม่น้ำฝั่งตรงข้ามจะพังทลายตามลงมา
ยอดตึกที่พังทลายจะแลเห็นโผล่เหนือน้ำ
ให้เห็นเป็นอนุสรณ์ของคราบน้ำตา
หลังคาบ้านเรือนในบริเวณใกล้เคียงจะปลิวว่อน
เสาไฟฟ้าจะล้มระเนระนาด ด้วยความรุนแรงของลมพายุ

******************************

ตึกสูงย่านประตูน้ำ ในกรุงเทพมหานคร
ผนังตึกส่วนหนึ่งจะรูดลงมากองกับพื้น
ด้วยความรุนแรงของลมพายุที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง
จะสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนในบริเวณใกล้เคียง
อย่างเหลือที่จะคณานับ

*******************************

เทือกเขาตะนาวศรีในเขตจังหวัดราชบุรี จะพังทลายลงมา
เนื่องจากแผ่นดินไหวที่รุนแรง
ซึ่งจะเปิดเผยให้เห็นถึงภูเขาไฟที่ซุกซ่อนอยู่
หลังจากนั้นไม่นานภูเขาไฟลูกแรกในประเทศไทย
จะระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง
เสียงดังกึกก้องกัมปนาทดังมาถึงกรุงเทพ
ธารลาวาจะไหลลงไปยังฝั่งพม่า
ไม่นานนักระเบิดลูกที่สอง และลูกที่สามก็ตามมา
ลูกที่สี่ จะรุนแรงอย่างถึงที่สุด
ซึ่งจะสร้างความอำมหิตให้กับภาคเหนือและภาคอีสานต่อไป

********************************

ณ บ้านกุดฉิม อำเภอหนองเรือ จัดหวัดขอนแก่น
จะเกิดภูเขาไฟแห่งที่สองระเบิดขึ้น มีผู้เสียชีวิตประมาณ 500 คน
เกิดแผ่นดินไหว และมีลาวาร้อนจากภูเขาไฟ
ไหลเคลื่อนตัวทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า
เกิดขึ้นที่บ้านโพธิ์ อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
มีผู้เสียชีวิตร่วมพันคน

*******************************

เกิดภูเขาไฟระเบิดในจังหวัดกาฬสินธุ์ อย่างกระทันหัน
จนยากที่ผู้คนในบริเวณนั้นจะตั้งตัวทัน
และจะเกิดปรากฎการณ์ที่แปลกประหลาด
มีจำนวนเด็กและผู้หญิงเสียชีวิตมากกว่าผู้ชาย

จังหวัดตรัง เกาะทุกเกาะจะจมหายไป
เนื่องจากลมพายุที่รุนแรงและทะเลคลั่ง
ที่กลบกลื่นหมู่เกาะให้หลับลึกไปอย่างรวดเร็ว

สมุทรปราการ จะจมหายลงไปในท้องทะเลครึ่งเมืองอย่างถาวร
เนื่องมาจากลมพายุที่โหมกระหน่ำ
บวกกับน้ำทะเลหนุนสูง น้ำจะท่วมอย่างรวดเร็ว
และมีสายน้ำเปลี่ยนทิศไหลผ่าเมืองอย่างน่าหวาดกลัว
ผู้ที่รับบาดเจ็บจากหายนะในครั้งนี้
จะถูกนำส่งยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ที่อยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านสำโรง
ซึ่งโรงพยาบาลแห่งนี้จะเป็นประตูต้นทาง
ของกระแสน้ำที่ไหลเปลี่ยนทิศ
แต่ก็เป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดของเมืองสมุทรปราการ

เกาะสมุย จะถูกลบหายไปจากแผนที่โลก
เนื่องจากแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง
และเกิดพายุรวมทั้งคลื่นยักษ์ซัดกระหน่ำ
จนกระทั่งเกาะทั้งเกาะจมหายลงไปในท้องทะเล
อย่างไม่มีวันหวนกลับคืน

****************************

เกิดแผ่นดินไหวที่ตัวเมืองบุรีรัมย์ เสียชีวิตทันที 53 คน
ผู้บาดเจ็บที่เหลือจะเสียชีวิตอย่างมากมาย
ในระหว่างทางไปโรงพยาบาล

เกาะปันหยี จังหวัดพังงา เกิดน้ำท่วมสูง
และพายุที่รุนแรงโหมกระหน่ำ
เกาะหายสาบสูญอย่างถาวร ผู้คนเสียชีวิตทั้งเกาะ

เขื่อนบางลาง จังหวัดนราธิวาส ถูกคลื่นจากทะเลซัดกระหน่ำ
จนกระทั่งเขื่อนแตก น้ำไหลทะลักเข้าท่วมแผ่นดิน
รวมทั้งน้ำทะเลที่ถาโถมเข้าใส่แผ่นดินอย่างบ้าคลั่ง
จนกระทั่งไม่มีนราธิวาส หลงเหลืออยู่ในแผนที่โลก

บ้านหาดเล็ก จังหวัดตราด ถูกคลื่นยักษ์ไซโคลนกระหน่ำ
แผ่นดินหายไม่มีเหลือ

ยะลา ถูกทะเลคลั่งโหมกระหน่ำ น้ำทะเลสูง แผ่นดินหาย
เหลือเพียงเกาะเล็กๆ เท่านั้น ที่จะมีชื่อเรียกใหม่ว่า“เกาะยะลา”

จังหวัดสงขลาน้ำท่วมสูง เกาะทุกเกาะจมหาย
จะเหลือเพียงหาดใหญ่บางส่วนที่น้ำจะไม่ท่วมถาวร

*************************

ชลบุรี ชายฝั่งทะเลบางแสน ถูกคลื่นยักษ์ 4-5 เมตร
ซัดกระหน่ำอย่างรุนแรงจนกระทั่งมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งพังพินาศ
แต่น้ำทะเลจะไม่ท่วมถาวร

ฉะเชิงเทรา น้ำจะท่วมถึงสองฝั่งบางปะกง จนถึงฐานหลวงพ่อโสธร

กระบี่จะถูกพายุพัดกระหน่ำ ผืนดินทางด้านตะวันออกจะหายไป
ชาวประมง ประมาณ 180 คนจะถูกกลืนหายไปในท้องทะเล

ชุมพร จะเผชิญพายุฝนที่รุนแรง คลื่นจัด น้ำท่วมสูง
ศาลกรมหลวงชุมพรจะเหลือไว้เป็นอนุสรณ์ให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์

อุทยานภูริน นางย่อง สิมิลัน จังหวัดพังงา ถูกคลื่นยักษ์ซัดหาย

********************************

ภูเก็ต ถูกพายุถล่มอย่างบ้าคลั่ง
จะกระทั่งเกาะทั้งเกาะหายไปจากแผนที่โลก
มีผู้เสียชีวิตทันทีประมาณ 40,000 – 60,000 คน

********************************

นครศรีธรรมราชน้ำท่วมใหญ่ มีผู้เสียชีวิตประมาณ 20,000 คน
พังงา น้ำท่วม แผ่นดินจะถูกกลืนจมหายลงไปในท้องทะเล

ปัตตานี ฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมทั้งจังหวัด
แต่ วัดช้างไห้ ของหลวงปู่ทวด จะปลอดภัย
รูปปั้นหลวงปู่ทวดจะแสดงปาฎิหารย์ ลอยน้ำขวางกระแสน้ำเชี่ยว
น้ำจะแห้ง วัดช้างไห้จะกลายเป็นเกาะกลางน้ำ

เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์จะพังหลาย กระแสน้ำที่เชี่ยวกราด
จะทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า มีผู้เสียชีวิตทันที่ประมาณ 200 คน

เกิดภูเขาไฟระเบิดอย่างกึกก้องกัมปนาถที่จังหวัดอุตรดิตถ์
กาญจนบุรี เขื่อนศรีนครินทร์จะมีปัญหา
น้ำไหลอ้อมเขื่อนท่วมด้านล่างเสียหายบางส่วน
รวมทั้งน้ำท่วมสูงแผ่นดินหายถาวรครึ่งจังหวัด

***************************

นครราชสีมา เกิดน้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์
กระแสน้ำจะท่วมสูงจนถึงฐานของอนุเสาวรีย์ย่าโม
******************************

ทุกจังหวัดในประเทศไทยต่างก็ได้รับความบอบช้ำด้วยกันทั้งสิ้น
จะมากน้อยต่างกันไป บริเวณใดที่มีผู้คนมีศีลธรรมอาศัยอยู่
อาจได้รับการปกป้อง บรรเทาภัยพิบัติให้เบาบางลงไปได้บ้าง

ข้อมูลทุกอย่างที่กล่าวมานี้อาจเปลี่ยนแปลงได้
แต่ระดับความรุนแรงจะไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน
ดังเช่นภูเขาไฟที่กล่าวว่าจะเกิดในสถานที่หลายแห่งนั้น
อาจเกิดระเบิดกึกก้องกัมปนาถรวมกันในสถานที่แห่งเดียว
แต่จะมีความรุนแรงมากกว่าปกติ
กล่าวคือ อาจมีลาวาจะพุ่งสู่ท้องฟ้าสูงเป็นพิเศษ
ถึง 6 กิโลเมตร เป็นต้น

เหตุการณ์ต่างๆ ที่กล่าวมานั้น
จะมีอยู่วันหนึ่งที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงที่สุด
คลื่นพลังมหาศาลจากจักรวาลจะกระแทกลงมายังโลก
เป็นพลังงานที่เกิดจากลมพายุสุริยะ
อันเนื่องมาจากจุดดับบนดวงอาทิตย์จุดที่ 11

มนุษย์ทุกคนบนโลก จะได้พบกับเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว
บรรยากาศช่วงแรกๆ จะรู้สึกหดหู่ เวิ้งว้าง ท้องฟ้าจะวังเวงพิกล
หลังจากนั้นไม่นานนักลมจะแรงขึ้น แรงขึ้น เสียงฟ้า เสียงลม
จะแผดเสียงกึกก้องดังที่สุด
ตั้งแต่เกิดมาจะไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนี้มาก่อนในชีวิต
มันเป็นเสียงของมัจจะราชที่จะพิพากษาโลกในด้านความเป็นมนุษย์
คนชั่วทุกคนจะถูกประหารชีวิต และจะตายอย่างทรมาน
ไม่เว้นแม้แต่ผู้นำสังคม ผู้นำเศรษฐกิจ ผู้นำลัทธิ ฯลฯ
ส่วนคนดีจะได้รับการยกเว้นเอาไว้
ให้ได้ทำความดีโดยไม่มีอุปสรรคต่อไป

*********************************

แผ่นดินไทยที่สาบสูญ

บริเวณที่หายถาวรทั้งแผ่นดิน

นราธิวาส สตูล พังงา ภูเก็ต หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์
หมู่เกาะ ตะรูเตา หมู่เกาะทะเลตรัง ตราด เกาะช้าง
หมู่เกาะทะเลตราด เกาะสมุย เกาะพงัน อ่างทอง ชะอำ

บริเวณที่เหลือเพียงบางส่วน แต่จะกลายเป็นเกาะเล็กๆ

เกาะยะลา เกาะปัตตานี เกาะพัทลุง เกาะสิชล-ขนอม
เกาะหัวหิน เกาะหาดทรายรี-ชุมพร

บริเวณที่หายเป็นส่วนใหญ่ จะเหลือเพียงบางส่วน

ยะลา หาดใหญ่ พัทลุง ตรัง สุราษฎร์ธานี
นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์
เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา
ชลบุรี ระยอง จันทบุรี สมุทรปราการ อุบลราชธานี
แผ่นดินริมแม่น้ำโขงตลอดแนว กาญจนบุรี
ฯลฯ

ประเทศไทยจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน

ได้แก่พื้นที่ในส่วนภาคกลางอันเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ
และบริเวณในส่วนของภาคใต้ที่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 เกาะใหญ่ๆ
ได้แก่

1. บริเวณตั้งแต่ชุมพรฝั่งตะวันตก ท่าแซะ ระนอง
สุราษฎร์ธานีฝั่งตะวันตก บริเวณด้านบนของอำเภอพนม
อ.เทียนชา อ.บ้านนาเดิม นครศรีธรรมราชตอนบน ขนอม

2. บริเวณตั้งแต่จังหวัดกระบี่ นครศรีธรรมราช
ที่ต่อแดนกับจังหวัดกระบี่ด้านบน ฉวาง ร่อนพิบุลย์ ชะอวด
จังหวัดตรังด้านตะวันออก จังหวัดพัทลุงด้านตะวันตก หาดใหญ่
จังหวัดยะลา ด้านตะวันตก

นอกจากนี้ยังมีเกาะเล็ก เกาะน้อยที่เกิดขึ้นมาใหม่อีกหลายเกาะ
ได้แก่เกาะสัต!บ เกาะยะลา เกาะปัตตานี
เกาะพัทลุง เกาะสิชล-ขนอม
เกาะหัวหิน เกาะหาดทรายรี-ชุมพร

บริเวณที่จะกลายเป็นพื้นที่ติดกับทะเล

ดินแดนที่จะมีอาณาเขตติดกับทะเล ได้แก่
สงขลาทางด้านตะวันตก ยะลาทางด้านตะวันออก
หาดใหญ่ กระบี่ตอนบน ด้านที่ติดกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี
และด้านที่ติดกับจังหวัดพังงา
ตอนกลางของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ตั้งแต่ อ.พนม อ.เคียงซา จรดเขตจังหวัดกระบี่
ชุมพรด้านใน ท่าแซะ
ตอนล่างของเมืองประจวบคีรีขันธ์
และถนนเพชรเกษมฝั่งตะวันออกตลอดแนว
ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ถนนชลบุรี-ปากท่อ ช่วงสมุทรสงคราม และสมุทรสาคร
ตัวเมืองแปดริ้ว บ้านค่ายปลวกแดง จ.ระยอง ตัวเมืองจันทรบุรี
และตลาดท่าใหม่วังน้ำเย็น จรด จ.สระแก้ว
เหนือเขื่อนเขาแหลมด้านตะวันตก
กาญจนบุรี ศรีสะเกษ อุบลราชธานี มุกดาหาร สกลนคร
นครพนม เลย หนองคาย อำนาจเจริญ
บ้านร่มเกล้า จังหวัดพิษณุโลก
อุตรดิตถ์ ด้านที่ติดกับประเทศลาว น่าน ด้านตะวันออกตอนล่าง
บ้านสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะกลายเป็นดินแดนชายฝั่งทะเล !

ประเทศไทยเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์
ที่จะได้รับการปกป้อง คุ้มครองรักษาไว้
ซึ่งจะได้รับความบอบช้ำจากมหันตภัยธรรมชาติน้อยที่สุดในโลก
และจะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำซึ่งมีความเจริญเป็นศูนย์กลางของโลกต่อไป

เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในต่างประเทศ

เหตุการณ์ในต่างประเทศ

เกาะฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ถูกคลื่นยักษ์ที่มาพร้อมกับพายุไซโคลนกระหน่ำ
ทั้งเกาะจะถูกลบหายไปจากแผนที่โลก

พิลิปปินส์ ถูกพายุไซโคลนกระแทก
ก่อนเกิดเหตุจะแลเห็นน้ำทะเลเป็นสีดำหม่นหมอง
บรรยากาศหดหู่ เวิ้งว้าง
ไม่นานนักจะเกิดพายุไซโคลนก่อตัวขึ้น
พายุไซโคลนที่รุนแรง ข้างล่างดูด ข้างบนตี กระแทก
จนกระทั่งเกาะทุกเกาะจมหายลงไปในท้องทะเล

ไอแลนด์เหนือและใต้ อากาศหนาวจัด
อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน
ในขนะเดียวกันจะถูกคลื่นยักษ์ซัดกระหน่ำ
ในขณะที่หนาวจัดนั่นเอง

ฮ่องกงถูกทะเลคลั่ง น้ำทะเลสูง
ชินจุงจะหายถาวร
เกาะสนามบินแห่งใหม่
จะถูกคลื่นตีแตกหายไปในทะเล
ในบริเวณแถบนั้นจะเหลือแต่เพียงเกาะเกาลูน
และประเทศจีนบางส่วน

หมายเหตุ: บทความเหล่านี้ ทางผู้จัดทำบล็อกมิได้เขียนขึ้นมา เพียงแต่ได้คัดลอกมาเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการ อ่าน


เตือนภัยพิบัติโลก

"กมฺมุนา วตฺตตี โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม"

วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

สาสน์ข้อที่ 3 ของแม่พระฟาติมา

0 ความคิดเห็น

แม่พระฟาติมา


อนึ่งผมได้รับเอกสารชิ้นหนึ่งจากคุณ สนธิ สารธรรม จ่าหน้าว่า "สาสน์ข้อที่ 3 ของแม่พระที่ฟาติมา" ผมจะขอคัดข้อความส่วนที่กล่าวถึงการทำนายมาลงในที่นี้ เพื่อเปรียบเทียบกับข้อความชิ้นแรก ที่ผมได้อ้างมาแล้วในตอนต้น

"หลังจากที่สมเด็จพระสันตปาปายอห์น ปอล ได้ทรงอ่านทำนายข้อที่ 3 แล้วก็เช่นเดียวกันพระองค์ทรงโทมนัสมากจากข้อความในสาสน์นั้น และทรงอนุญาตให้เปิดเผยบางส่วนให้โลกได้รับทราบในปี ค.ศ.1983-1985 พระองค์ทรงทำดังนี้เพราะมีเวลาเหลืออยู่น้อยแล้ว"

"เสียงจากพระแม่ได้ตรัสกับลูเซียว่า........ลูกที่รักของเราจงไปและบอกให้โลกได้รู้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น หากมนุษย์ไม่ฟังคำสั่งที่พระเป็นเจ้าทรงวางไว้ต่อหน้าพวกเขา ปีศาจจะปกครองโลกและมันกำลังทำให้คนทั้งหลายเกลียดชังกัน อาวุธที่มนุษย์สร้างขึ้นนั้นก็สามารถทำลายโลกได้ในเวลาเพียงนาทีเดียว ครึ่งหนึ่งของมนุษย์ชาติจะถูกทำลาย พระศาสนาจักรเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความชั่วร้าย จนว่าไม่มีมนุษย์สักคนเข้าใจดีกันได้และมนุษย์จะสูญเสียความเชื่อ.......

แผ่นดินไหวจะทำลายแนวเส้นแบ่งของโลก (เส้นศูนย์สูตรของโลก) ผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้าจะตาย บุคคลเหล่านี้เป็นพวกที่ชีวิตของเขามีรากฐานอยู่บนวัตถุสิ่งของ คนหลายล้านคนจะเสียชีวิตภายในเวลาไม่กี่วินาที ส่วนพวกที่มีชีวิตรอดก็ปรารถนาให้ตัวเองได้อยู่ในหมู่ผู้ตาย (อยากตาย) สภาพของโลกที่อยู่เบื้องหน้าเรานั้นเป็นสภาพที่ไม่อาจจินตนาการได้ แต่สิ่งนี้จะมาอย่างแน่นอน พระเป็นเจ้าจะทรงลงโทษผู้ที่ไม่ต้องการที่จะยอมรับพระองค์ พวกที่เชื่อและสัตย์ซื่อต่อพระองค์จะมีชีวิตรอดและจะมีความเชื่อเพิ่มมากขึ้น"

ลูเซีย เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ เธอได้กลายเป็นแม่ชี และเคยกล่าวเอาไว้ว่า

".........แม่พระทรงโทมนัสมาก เพราะไม่มีใครสนใจในสาสน์ปี ค.ศ.1917 ของพระแม่ จงเชื่อเถิดว่าการลงโทษกำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้ และมีวิญญาณมากมายจะประสบความพินาศ หลายชาติจะหายไปจากโฉมหน้าของโลก ในระหว่างนี้ถ้ามนุษย์กลับตัวกลับใจโลกก็จะปลอดภัย........ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะเริ่มภาวนา ทำการใช้โทษบาปและส่งสาสน์นี้ให้แพร่หลายต่อไปยังครอบครัวญาติมิตร "

"การลงโทษจะมาอย่างแน่นอน เมื่อบุรุษผู้หนึ่งซึ่งมีตำแหน่งสำคัญถูกฆาตกรรม เหตุการณ์นี้จะก่อให้เกิดมติที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหานั่นคือ กองทัพที่มีพลังมหาศาลจะบุกเข้าสู่ยุโรป แล้วสงครามนิวเคลียร์จะเริ่มขึ้น มันจะทำลายทุกสิ่ง ความมืดจะครอบคลุมโลกเป็นเวลา 72 ชั่วโมง และ 1 ใน 3 ของมนุษย์ชาติซึ่งจะมีชีวิตรอดจากช่วงเวลาแห่งความมืด 72 ชั่วโมงนั้นจะเข้าสู่ ชีวิตในยุคใหม่และเป็นคนดี"

"ในคืนที่มีอากาศหนาวจัด เมื่อเวลา 10 นาทีก่อนเที่ยงคืน แผ่นดินไหวครั้งใหญ่จะทำให้โลกสั่นสะเทือนเป็นเวลา 8 ชั่วโมง นี่คือสัญญาณที่ 3 ซึ่งแสดงว่าพระเป็นเจ้าทรงเป็นผู้ครอบครองโลก คนดีและผู้ที่ได้เผยแพร่สาสน์ของพระแม่จะไม่ต้องหวาดกลัวเลย จะต้องทำอะไรเล่าจงคุกเข่าและภาวนาวอนขอพระเมตตาจากพระเป็นเจ้า จงอย่าออกไปข้างนอกจงอย่ายอมให้ใครก็ตามเข้าไปในบ้านของท่าน คนดีเท่านั้นจึงจะมีชีวิตรอดจากหายนะครั้งนี้ ส่วนคนชั่วจะตกอยู่ในน้ำมือของปีศาจ "

แม่ชีลูเซียได้แนะ "ทางรอด" ให้แก่ผู้ที่เตรียมตัวพร้อมเอาไว้ดังนี้ว่า

" ดิฉันขอให้เครื่องหมายเหล่านี้ คือคืนนั้นจะหนาวมาก ลมจะพัดแรงและในช่วงเวลาอันสั้นโลกจะเริ่มสั่นสะเทือน ที่บ้านของท่านจงปิดหน้าต่างทุกบานและอย่าพูดกับคนหนึ่งคนใดนอกจากคนในบ้าน อย่ามองออกไปภายนอก อย่าอยากรู้อยากเห็น เพราะนี่เป็นพระพิโรธของพระเป็นเจ้า จงจุดเทียนเสกเพราะจะไม่มีแสงสว่างในรูปแบบอื่นส่องแสงได้เป็นเวลา 3 วัน คุกเข่าต่อไม้กางเขนแล้วภาวนา.....

เมื่อโลกหยุดสั่นสะเทือนแล้วท่านจึงมองออกไปภายนอกได้ แต่อย่าได้แตะต้องหรือนำสิ่งใดก็ตามที่ได้สัมผัสกับสิ่งที่เป็นพิษ มิฉะนั้นตัวท่านจะได้รับพิษนั้นด้วย ทุกคนที่ไม่เชื่อและไม่ฟังจะตาย ลมจะพัดเอาอากาศธาตุ (ก๊าซ) มาและแผ่กระจายไปทั่วโลก ในคืนที่ 3 แผ่นดินจะหยุดสั่นสะเทือน มันจะอยู่ในสภาพนิ่ง ดวงอาทิตย์จะปรากฎมา บรรดาทูตสวรรค์จะมาจากฟ้าและอวยพรแผ่นดินโลกอีกครั้งหนึ่ง "




(คัดลอกมาจาก หนังสือ เทพอวตาร เขียนโดย ดร.สุวินัย ภรณวลัย)


ที่มา: http://board.palungjit.com/



เตือนภัยพิบัติโลก


"กมฺมุนา วตฺตตี โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม"



วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เขื่อนกั้นแม่น้ำโขงในประเทศจีน มหันตภัยใหญ่ของประเทศไทย !!!

1 ความคิดเห็น

เขื่อนกั้นแม่น้ำโขงในประเทศจีน


เขื่อนกั้นแม่น้ำโขงในประเทศจีน

รัฐบาลจีนมีนโยบายที่จะพัฒนาเขื่อนบนแม่น้ำโขงกว่า 20 แห่ง โดยในปัจจุบันได้สร้างเสร็จและดำเนินการแล้ว 2 แห่งได้แก่เขื่อนม่านวาน สร้างเสร็จในปี 2539 ขนาด 1,550 เมกะวัตต์ และเขื่อนต้าเฉาชาน สร้างเสร็จในปี 2546 ขนาด 1,350 เมกะวัตต์ และมีอีก 2 เขื่อนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างได้แก่เขื่อนเสี่ยววาน คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2555 ขนาด 4,200 เมกะวัตต์ และเขื่อนจิงหง คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2553 ขนาด 1,750 เมกะวัตต์



Zone 1 คือปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงที่ถูกกักเก็บไว้ในเขื่อนเหนือประเทศไทย


Zone 1 คือปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงที่ถูกกักเก็บไว้ในเขื่อนเหนือประเทศไทย



เส้นสีส้มคือเส้นทางที่แม่น้ำโขงจะทะลักเข้าไทย(ถ้าเขื่อนแตก)


เส้นสีส้มคือเส้นทางที่แม่น้ำโขงจะทะลักเข้าไทย(ถ้าเขื่อนแตก)


รัฐบาลจีนมีนโยบายที่จะพัฒนาเขื่อนบนแม่น้ำโขงกว่า 20 แห่ง โดยในปัจจุบันได้สร้างเสร็จและดำเนินการแล้ว 2 แห่งได้แก่เขื่อนม่านวาน สร้างเสร็จในปี 2539 ขนาด 1,550 เมกะวัตต์ และเขื่อนต้าเฉาชาน สร้างเสร็จในปี 2546 ขนาด 1,350 เมกะวัตต์ และมีอีก 2 เขื่อนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างได้แก่เขื่อนเสี่ยววาน คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2555 ขนาด 4,200 เมกะวัตต์ และเขื่อนจิงหง คาดว่าจะสร้างเสร็จในปี 2553 ขนาด 1,750 เมกะวัตต์

เขื่อนจิงหงนี้ก็คือเขื่อนที่ตั้งอยู่ที่เมื่องจิงหง หรือเชียงรุ่ง ในแคว้นสิบสองปันนา ซึ่งเดิมรัฐบาลจีนจะสร้างขึ้นเพื่อขายไฟฟ้าให้แก่ประเทศไทยเพราะมีระยะทางห่างจากชายแดนไทยเพียง 280 กิโลเมตร แต่เนื่องจากนโยบายของไทยขาดความชัดเจน รัฐบาลจีนจึงตัดสินใจเดินหน้าในการสร้างเขื่อนเพื่อผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองในประเทศจีน และหากต่อไปประเทศไทยยังมีความต้องการจะซื้อไฟฟ้าจากจีนจำนวน 3,000 เมกะวัตต์ตามข้อตกลง รัฐบาลจีนก็จะพัฒนาเขื่อนอื่นเพื่อผลิตไฟฟ้าขายให้ไทยต่อไป

ที่มา การสร้างเขื่อนในประเทศจีนและผลกระทบต่อประเทศไทย




ข้อมูลจาก http://borad.palungjit.com/


รายงานแผ่นดินไหวทั่วโลก




รายงานแผ่นดินไหวภายในประเทศและใกล้เคียง