/*----Yahoo site map-------*/ /*----Bing site map-------*/

ค้นหาอะไรก็เจอ

วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2554

หยุดสึนามิด้วยฝ่ามือ (คัดลอกจากนิตยสารโลกลี้ลับ)

หยุดสึนามิด้วยฝ่ามือ
 "หยุดสึนามิด้วยฝ่ามือ"(คัดลอกจากนิตยสารโลกลี้ลับ)

ปลายปีพ.ศ. 2547 จนถึงปลายปี พ.ศ.2549 จะเป็นช่วงวิบากกรรมของประเทศไทย โดยเริ่มจาก สึนามิลูกแรก เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ตามขอบ อ่าวเบงกอล และทะเลอันดามัน ตามที่เป็นข่าวโศกนาฏกรรมดังไปทั่วโลก ตามมาด้วย ตึกยุบ และรถไฟฟ้าใต้ดินชนกัน อย่างไร ก็ตามจาก การมองเห็นอนาคตด้วยจิตและคำยืนยันของมนุษย์ต่างดาว ที่ได้เชิญมาสนทนากัน มีคนมาร่วมฟังและช่วยกันซักถามเกือบ 10 คน ได้แนวโน้มว่า ในระยะอันใกล้นี้จะเกิดภัยพิบัติทางน้ำอย่างน้อยอีก 2 ครั้ง ครั้งที่หนึ่งจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในทะเลอันดามันอีกครั้ง จุดศูนย์กลางการไหวจะเคลื่อนไปทางเหนือของครั้งที่แล้ว จะเป็นผลให้เกิดภัยพิบัติแก่ฝั่งทะเลของประเทศพม่า กับบังคลาเทศมากที่สุด ประเทศอินเดีย ศรีลังกา ไทย มาเลเซีย จะเสียหายมากน้อยตามลำดับ ประเทศไทยนั้นแนวชายฝั่งจะเฉียงและขนานกับแนวคลื่น ความรุนแรงจึงไม่มากเท่าครั้งแรก เพราะไม่ได้ชนโดยตรง แนวโนมว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ภายในเดือน กุมภาพันธ์ 2548

ในประเทศไทยมีรอยแตกแยกใต้ทะเลมาถึงจังหวัดระนอง และมีรอยเลื่อนขึ้นไปทางทิศเหนือ จะผ่านขึ้นไปถึงเชียงราย แพร่ น่านตลอดรอยเลื่อน มีเขื่อนใหญ่ในเขตเมืองกาญจนบุรีอยู่สองเขื่อนที่น่าจะจับตาระวังเป็น พิเศษ(ขอแทรกนิดนึงว่าเขื่อนที่ว่านี้ผู้พิมพ์มีญาติเปิดร้านอาหารอยู่ที่ อำเภอท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ขอเรียกว่าอาตุ๊ อาตุ๊บอกกับข้าพเจ้าว่า รถสิบล้อมันขนปูนไปที่เขื่อนเขาแหลม กับเขื่อน ศรีนครินทร์ กันเป็นร้อยคัน มันบอกว่าเอาปูนไปยิงเขื่อนเพราะมีรอยแตกเยอะมาก บางคนไม่ได้กลับบ้านเลยตลอดสัปดาห์ อันนี้ขอยืนยันว่าจริง แต่ทางราชการบอกว่าไม่แตก ไม่มีรอยร้าว มันตอแหล) ภัยพิบัติลำดับต่อมาคือ จะเกิดทางน้ำอีกเช่นกัน ในอ่าวไทย เนื่องจากการแตกและยุบของพื้นทะเล ด้วยสาเหตุที่โครงสร้างใต้พื้นมีการเปลี่ยนแปลงจากแผ่นดินไหว 2 ครั้งก่อนหน้านั้นกอร์ปกับการเกิดโพรงและความดันตก เนื่องจากมีการสูบแก๊สธรรมชาติมาใช้เฉลี่ยวันละ 40-45 ล้านลูกบาศ์กฟุตมาเป็นเวลา 25 ปี และเนื่องจากระดับความลึกของทะเลในอ่าวไทยตอนบนค่อนข้างตื้น โดยเฉลี่ย 20-40 เมตร อิทธิพลของคลื่นจึงไม่รุนแรงมาก เป็นคลื่นสูงใหญ่กว่าปกติ อย่างไรก็ตามเพื่อความไม่ประมาท มีพระสงฆ์ และผู้มีอภิญญาได้ร่วมกันใช้อภิญญาปิดปากแม่น้ำที่สำคัญโดยการเนรมิตเขื่อน ทางจิต เพื่อป้องกันมิให้คลื่นและน้ำเข้าทำลายและท่วมเมืองและนครใหญ่ ๆ โดย องค์พระเหนือโลก ได้เดินทางด้วยตนเองปิดปากแม่น้ำเจ้าพระยา เรียบร้อยแล้ว เพื่อป้องกันกรุงเทพมหานคร และได้มอบหมายให้คณะบุคคลจาก "กลุ่มโลกทิพย์" ไปดำเนินการปิดปากแมม่น้ำตาปีเพื่อป้องกันเมืองสุราษฎร์ธานี และที่สำคัญคือ "พระบรมธาตุไชยา"โบราณศาสนสถานสำคัญของภาคใต้ที่สร้างขึ้นใน ยุคศรีวิชัย ขณะรุ่งเรืองอย่างสูงสุด

วันที่ 23 ม.ค.2548 "กลุ่มโลกทิพย์" รวม 4 คน ได้เดินทางโดยเครื่องบินไปถึงสนามบิน สุราษฎร์ธานี เวลา 11.00 น. เมื่อรับประทานอาหารเที่ยงเรียบร้อยแล้ว จึงเดินทางเข้าสู่ อ.ไชยาเป็นอันดับแรก คณะของเราและสมาชิกโลกทิพย์ในพื้นที่ ที่มารอร่วมไปด้วยกันอีก 5 คน ไปถึง วัดพระบรมธาตุไชยา ราชวรวิหาร ประมาณบ่ายสองโมงเมื่อไปถึงมองเห็นองค์พระเจดีย์สูง องค์พระบรมธาตุมีสีขาว มีกำแพงล้อมรอบเป็นรูปเหลี่ยม มีประตูกำแพงเข้าได้หลายด้าน เราเข้าทางด้านหน้าซึ่งเป็นลานจอดรถที่หน้าประตูด่านแรก เราสัมผัสถึงพลังและบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ จึงหยุดที่หน้าประตูยืนสำรวมจิตขออนุญาติเข้าที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เฝ้า ดูแลตามมารยาทอันควรของแขกผู้มาเยี่ยม ในชั่วอึดใจเห็น พญานาคสีทองเจ็ดเศียร เลื้อยมาต้อนรับที่หน้าประตู เป็นนาคตระกูลแผ่เต็มเบี้ย ซึ่งมีอำนาจมากกว่านาคตระกูลที่คอยาวเป็นนิ้วเหมือนนิ้วมือมนุษย์ พญานาคนั้นหันกลับเดินนำ เราจึงเดินตามเข้าไป ปรากฎว่าด้านในมีกำแพงอีกชั้นก่อนที่จะเข้าไปถึงเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุ เราจึงกำหนดจิตขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าของที่อีกครั้ง เมื่อก้าวเข้ามาสู่ด้านในสุดอันเป็นหัวใจของพระบรมธาตุไชยา พลังและอณูอากาศ มีความอบอุ่นและสั่นสะเทือนบีบหัวใจในกายของเราให้เต้นและสั่นในความถี่ที่ คงที่
เมื่อตั้งขบวนเครื่องบูชาอันประกอบด้วย ดอกบัวและธูปเทียนเรียบร้อยแล้ว เราจึงคุกเข่าลงกราบ สวดมนต์กำหนดจิตอธิษฐาน ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้องค์พระบรมธาตุไชยาพ้นจากภัยพิบัติด้วย เถิด กำหนดจิตให้ลึกจึงมองเห็นว่า ควันจากธูปที่จุดไว้ และละอองหมอกสีขาว เป็นเส้นไหมจากจิตที่กำหนดตั้งจิตอฐิษฐานแผ่กุศลและส่วนบุญ ลอยออกไปจากพวกเราและธูปที่ปักเหมือนสายไหมที่พุ่งเข้าไปสู่จุดรวมของทอผ้า จุดรวมเส้นไหมของแรงกุศลและอธิษฐานหมุนเป็นเกลียวปั่นในทิศทางหมุนทวนเข็ม นาฬิกา เข้าสู่จุดกลางของช่องว่างที่มีสีดำรูปวงรี คิดอยู่ในใจว่า ช่องว่างดำนั้นคือสิ่งใด เมื่อจิตคิดถามคำตอบก็มาทันทีมองเห็นชัดว่าเป็นปากของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง นั่นคือปากของราหู เป็นปากของยักษ์ที่เคยเห็นประจำในรูปแบบของราหูอมจันทร์ สายไหมหรือสายใยแห่งกุศล แห่งแรงอธิษฐานลอยเข้าไปเหมือนถูกดูดจนหมดภายใน เวลาประมาณ 5 นาที เราจ้องมองดูจึงเห็นว่าราหูหน้ายักษ์ ค่อย ๆ ลอยขึ้นสูงอย่างช้า ๆ จนเลยยอดพระเจดีย์ขึ้นสูงหายไป ซึ่งหมายความว่า ราหูที่ถือกันว่าเป็นสิ่งมีอำนาจในการทำลายล้าง เมื่อสองสัปดาห์ข้าพเจ้ามองเห็น กำลังอมอ่าวไทยทั้งหมดอยู่ในปากอันแสดงว่าเกิดภัยพิบัติใหญ่หลวงในอ่าวไทย ขึ้น บัตนี้ได้ถอยออกไปและคืนพระบรมธาตุกลับมาด้วยแรงกุศล และแรงอธิษฐานของพวกเรา เสมือนเป็นการบอกว่า พระบรมธาตุไชยากลับคืนมาสู่สันติและความสงบเป็นมิ่งขวัญของชาว จังหวัดสุราษฎ์ธานีสืบไป

เมื่อทุกอย่างคลี่คลายพวกเราจึงพากันคลี่ผ้ายกสีทอง หน้ากว้างห่มรอบพระองค์เจดีย์โดยรอบ มีความยาวสี่ด้านประมาณ 25 เมตร เป็นการห่มถวายด้วยจิตที่เบิกบาน การห่มผ้าครั้งนี้เป็นผืนที่สาม เพราะมีร่องรอยของผู้มีจิตแรงกล้าได้มาถวามไว้ก่อนหน้าที่พวกเราจะมาแล้ว 2 ผืน เมื่อการห่มถวายเสร็จเรียบร้อยพวกเราจึงค่อยถอยห่างออกมา

พระบรมธาตุไชยาสร้างขึ้นในพุทธศัตวรรษที่ 13-14 หรือนานกว่า 1200 ปีมาแล้ว ในยุคศรีวิชัยกำลังรุ่งโรจน์ การก่อสร้างเป็นศิปะมหายานปนฮินดูเป็นองค์พระธาตุแบบสี่เหลี่ยมจตุรมุข ย่อซ้อนกันสามชั้น ตามมุมและหน้าบันที่อยู่เหนือซุ้มประตู เป็นที่สถิตขององค์เทพของฮินดู มีองค์พระพรหม พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ คชสิงห์ นกยูงและบรรดาสัตว์ในป่าหิมพานต์ ตามระเบียงคตโดยรอบมีพระพุทธรูปวางเรียงรายจนเต็ม เช่นเดียวกับที่เคยเห็นในระเบียงคตวัดโพธิ์

เมื่อจบขบวนการเราจึงถอยกลับออกมาสู่ด้านนอก พบว่าที่หน้าลานกว้างมีต้นโพธิ์ใหญ่ยืนต้น และมีอะไรอย่างหนึ่งที่มาบอกจิตว่า ณ โคนต้นโพธิ์นั้นพระแม่ธรณีท่านรออยู่ ทุกคนจึงเดินไป ณ ที่นั้น เมื่อถึงก็คุกเข่าก้มลงกราบถวายของบูชาพร้อมอธิษฐาน ขอให้พระแม่ธรณีช่วยคุ้มครององค์พระธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ด้วย จากการมองด้วยตาใน เห็นองค์พระแม่ธรณีทรงยื่นพระหัตถ์ออกมารับของบูชาถวาย เท่ากับเป็นความหมายว่า พระแม่ธรณีทรงเป็นองค์อุปถัมป์คุ้มครองแผ่นดินบริเวณ พระบรมธาตุไชยา เป็นที่น่าอนุโมทนายิ่งแล้ว

จุดหมายที่ 2 คือ ปากแม่น้ำตาปี สายน้ำของตาปีไหลผ่านตัวเมืองสุราษฏ์ ภาพคลื่นยักษ์ และกระแสน้ำพัดเข้ามาความเสียหายอาจจะเกิดขึ้นคาดไม่ได้ว่าจะรุนแรงแค่ไหน ทางที่ดีคือกันไว้ดีกว่าแก้ ตามคำแนะนำของ องค์พระเหนือโลก คณะของเรามุ่งตรงไปบริเวณปากแม่น้ำ เมื่อไปถึงก็พบว่า ที่บริเวณปากแม่น้ำที่ข้าพเจ้าเคยมาเมื่อหลายสิบปีก่อน ซึ่งเป็นสถานที่ชายทะเลที่เงียบสงบ โดยเฉพาะยามเย็นเป็นสถานที่พักผ่อนเยี่ยงสวนสาธารณะ ริมหาดมีเรือนแพจัดเป็นภัตตาคารขายอาหารทะเลที่ได้รสชาด ดีที่สุดในภาคใต้ แต่บัดนี้กลายเป็นสถานที่กองวัตถุดิบ ยิปซั่ม ที่กองเป็นภูเขาเลากาบริเวณกลายเป็นท่าเรือใหญ่ของเอกชน เป็นการทำลายทัศนียาภาพของดีเมืองสุราษฏ์ และนำความเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมมากองสุมแทน ตามสัจจะธรรมที่ว่า เมื่อความเจริญทางด้านวัตถุมาถึง ความสะอาดและความสงบย่อมหายไป

เมื่อมาถึงปากแม่น้ำตาปี ทอดสายตาไปทิศออกทะเล มองเห็นช่องปากแม่น้ำเป็นแนวกว้างพอประมาณ สองริมฝั่งขนาบด้วยป่าโกงกางหนาทึบที่คาดว่า จะลดความรุนแรงของกระแสคลื่นและน้ำลงไปได้มาก มองลงไปในสายน้ำด้วย ตาที่สาม ภาพที่เห็นคือ กระแสน้ำสีแดงเหมือนสายเลือดแดงฉานกำลังไหลขึ้นมาจากทะเล เข้าสู่ภายในปากแม่น้ำ เสมือนหนึ่งจะนำความตายและความพินาศเข้ามาด้วย ทำให้ใจรู้สึกสยดสยอง

วิธีบูชาบวงสรวงจึงได้เริ่มขึ้น โดยการอธิษฐานขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขออำนาจของพระแม่คงคา และบอกกล่าวมนุษย์ตั้งแต่ ปีชวด ถึงปี กุน ให้ตั้งมั่นอยู่ใน ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อจะได้อยู่ในพระพุทธศาสนา ขออำนาจแห่งการ แผ่กุศลจากพวกเราทุกคน ช่วยคุ้มครองแม่น้ำสายนี้ด้วยเถิด เพื่อความอยู่รอดของภาคใต้ทั้งหมด ทันใดที่มีการหลั่งอุทก ลงในกระแสน้ำ สิ่งนั้นเกิดขึ้นแก่จักษุคือ น้ำสีแดงฉานจากสายเลือดนั้น ไหลกลับออกปากอ่าวทันที ทุก ๆ นาทีที่ผ่านไป สีแดงของน้ำค่อย ๆ จางลง และใสเป็นปรกติภายในเวลา 10 นาทีต่อมา หมายความว่า อำนาจแห่งความกระหายเลือดได้หมดไปแร้ว เหลือเพียงว่าจะไม่ให้ไหลเข้ามาได้อีกอย่างไร คำตอบคือเนรมิตเขื่อนปิดปากแม่น้ำ

องค์พระเหนือโลก ผู้กำหนดให้พวกเรามาก่อนบอกไว้ว่า เมื่อมาถึงก่อนตัวท่านจะตามมา บัดนี้ได้เวลาแล้วท่านมาแล้วหรือยัง กำหนดจิตบอกไปว่าพวกเรารอท่านอยู่ บัดดลมองเห็นสิ่งหนึ่งลอยลิ่วมาจากทางขวา พุ่งโลดไปยังจุดที่เป็นปากแม่น้ำจิง ๆ มองเห็นจีวรสีกรักพัดไสว ท่านเหาะมาเหมือนโยคีขี่รุ้ง ในเรื่องพระภัยมณี มองเห็นเป็นสายรุ้งสีกรัก พระเหนือโลกมาแล้ว พวกเราจึงรวมจิตอีกครั้งมองเห็นชัดว่า จุดที่พระเหนือโลกลงไปที่ปากแม่น้ำแปรปรวนเต็มไปด้วยหมอกหนาสีขาวขุ่น หมอกหนานั้น ค่อย ๆ อัดตัวแน่นเป็นกำแพง สีขาวสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 5 เมตร เป็นกำแพงนิมิตรที่กั้นแม่น้ำป้องกันการรุกล้ำของอุทกภัยที่เป็นอันตราย นี่คือประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิต ที่เห็นการอุบัติของกำแพงน้ำกั้นปิดปากแม่น้ำ เพื่อความอยู่รอดของปวงประชา เมื่อขบวนการเสร็จสิ้น องค์พระเหนือโลกได้เหาะวนกลับออกมา เหมือนขี่รุ้งสีกรักโบกมือในความสำเร็จ และลอยหายลับไปในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่ท่านมา

การปิดปากแม่น้ำเจ้าพระยาก็เพื่อป้องกันวัดศรีรัตนศาสดาราม ป้องกันองค์พระแก้วมรกตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบ้านเมือง ซึ่งสร้างบูชาถวายโดย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผู้เป็นพระปฐมต้นราชวงศ์จักรี ที่ยืนยงมาถึง รัชกาลที 9 เพื่อให้ประเทศได้ยืนยงต่อไป ภายใต้เศวตฉัตรอันประกอบด้วยทศพิศราชธรรม อาณาจักรรุ่งเรือง ประชาราชเป็นสุข การปิดปากแม่น้ำตาปี ก็เพื่อรักษาอาษาจักรศรีวิชัยและพระบรมธาตุไชยา ซึ่งเป็นเหตุปฐมของการตั้งบ้านตั้งเมือง ของสุวรรณภูมิ ควบคู่กับยุคหริภุญไช ของพระแม่จามเทวี เมื่อกว่า 1200 ปีมาแล้ว และได้กลายเป็นประเทศสยาม และเป็นประเทศไทยในที่สุด ทั้งหมดคือขบวนการรักษาปฐมเหตุของการตั้งชาติ และรักษาความศักดิ์สิทธิ์รวมถึงอำนาจของราชวงศ์จักรี

พวกเราทุกคนขอน้อมจิตและแผ่ส่วนกุศล ให้สรรพสัตว์โลกทั้งหลายจงพ้นจากทุกข์ในคราวนี้ด้วยเทอญ(โปรดติดตามตอนต่อ ไป) ก็ไปซื้ออ่านกันเอาเองนะจ๊ะสำหรับผู้ที่กำลังติดตาม คุณตาที่สาม ที่ข้าพเจ้าพิมพ์มาทั้งหมดนี้ คัดลอกมาจาก หนังสือโลกลี้ลับ ปีที 22 ฉบับที่243 ประจำเดือนมีนาคม 2548 ISSN 0858-8104 เล่มละ 40 บาท


จากกระทู้นึงที่ว่า "หยุดคลื่นซึนามิด้วยฝ่ามือ" มีคำว่า"องค์พระเหนือโลก" อยู่ เลยสงสัยว่าคืออะไร...

จากคุณ : หนุ่มทิพย์ - [ 3เม.ย. 48 00:17:26 ]

เพราะ สิ่งศักดิ์สิทธิ รู้ว่า จะมีการยุบของพื้นทะเลในอ่าวไทย และจะมี คลื่นใหญ่ น้องๆๆ ซึนามิ เข้า โถมใส่ ตลอด ชายฝั่งอ่าวไทย และบางส่วนจะทะลัก เข้า ตามแม่น้ำที่อยู่รอบอ่าวไทย

" องค์พระเหนือโลก " คือ พระ รูปหนึ่ง จาก อิสานใต้ ได้ เห็นความจำเป็น จึง มาที่ ปากแม่น้ำ เจ้าพระยา เพื่อ ปิด ปากแม่น้ำ ด้วยมนต์ ป้องกันไม่ให้ คลื่นน้ำ ทะลัก เข้าท่วม กทม

เป้าหมายสำคัญ อยู่ที่ วัด พระแก้ว และ หลักเมือง ซึ่ง
เป็นสัญญลักษณ์สำคัญ เป็นจุดคี้มึ้ง ของกทม และ ราชวงศ์จักรี ถ้าจมน้ำไป ประเทศไทย และ ราชวงศ์จักรีจะเป็น อย่างไร

และอีกจุด คือ พระธาตุไชยา ซึ่งเป็น ที่ตั้งและจุดเกิด ของ สุวรรณภูมิ หรือ ประเทศไทยยุคแรก ถ้าจมน้ำไป สุวรรณภูมิ ก็จะไม่มี แล้วประเทศไทยก็จะไม่มีเช่นกัน

"องค์พระเหนือโลก ได้มีบัญชาให้ คณะ ของเรา เดินทางไป ช่วยกันปิด ปากแม่น้ำตาปี เพื่อ ป้องกัน สุราษฎร์ธานี พอคณะเราไปถึง จุดที่ปากแม่น้ำ "

องค์ พระเหนือโลก ท่าน ได้เหาะมาในอากาศ เหมือน โยคีขี่รุ้งใน เรื่อง พระอภัยมณี ลง มา สร้างมนต์กำแพงน้ำสูงประมาณ 8 เมตร เพื่อ ไม่ให้ น้ำ จาก คลื่น เข้าท่วม สุราษร์และ พระธาตุไชยา

เรื่องนี้เป็นงาน ปิดทองหลังพระ ไม่อยาก จะ เล่า แต่เมื่อ ถามมา ก็ เล่าให้ฟัง เงียบๆๆ ครับ
..

จากคุณ : ตาที่สาม - [ 3 เม.ย. 48 06:53:25 ]

เรื่องนี้บอกให้รู้ว่า ต้องเกิดแน่ๆ ดังนั้นขอให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ด้วย ความไม่ประมาท

จากคุณ : ปัญโญภาส - [ 3 เม.ย. 48 11:41:52 ]

หยุดคลื่นซึนามิด้วยฝ่ามือ
นี่เป็นข้อเขียนของคุณตาที่สามเองเหรอครับ

จากคุณ : TerraN เจ้าเก่า - [ 3 เม.ย. 48 12:40:46 ]

ผมอยู่ในเหตุการณ์ ปิด แม่น้ำตาปี นั้นด้วย คนที่ไป เป็นคณะ โลกทิพย์ มี สี่คน..คนที่เขียน เป็นคนของ โลกทิพย์ ครับ

โลก หรือห้องทดสอบจิตมนุษย์ หรือ นรก บนดิน.หมดเวลาแล้ว..องค์พระศิวะ ซึ่งเป็นผู้สร้าง และผู้ทำลาย ท่านได้สร้างมาแล้ว และบัดนี้ถึงเวลาที่จะต้อง ทำลาย เพื่อ ล้าง และ สร้างมาใหม่ สำหรับ ยุคพระศรีอารย์..ที่กำลังจะเริ่ม เป็นโลกแห่ง ความดี แห่งความสุข ตามที่พวกเราได้รู้กัน

เวลา เหลือน้อยมาก..อยากจะพูดว่า ไม่ทันแล้ว สำหรับคนที่ยัง มัวเมาในกิเลส และ จะต้องถูกทำลาย ลบทิ้งไป...การทำลายล้างโลก ได้เริ่มต้นอย่างจริงจังมาแล้ว หลังจากที่ได้เตือนมาก่อนหน้านั้น..เตือนอย่างไร..คงเข้าใจ
เท่านั้นครับ

จากคุณ : ตาที่สาม
- [ 29 เม.ย. 48 06:22:05 ]

http://www.pantip.com/cafe/wahkor/to.../X3390925.html18

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภัยพิบัติ

รายงานแผ่นดินไหวทั่วโลก




รายงานแผ่นดินไหวภายในประเทศและใกล้เคียง