FHM Thailand ขอแนะนำภูเขาไฟสุดอันตราย
ที่ทำให้แผ่นดินต้องวอดแผ่นฟ้าต้องวาย ที่สำคัญ ภูเขาไฟเหล่านี้ยังคงมีพลัง
และกำลังนับรอวันปะทุ!
Words : วนาทิพย์ กิรานุชิตพงศ์
ภูเขาไฟมีพลัง (Active Volcano)
คือภูเขาไฟที่มีประวัติระเบิดค่อนข้างถี่ย้อนไปไม่เกิน 10,000 ปี
และอาจมีการระเบิดซ้ำ ซึ่งทั่วโลกมีมากกว่า 1,000 ลูก
แต่ลูกที่อันตรายที่สุด เรานำมาให้คุณได้รู้จักที่นี่แล้ว
10. Mauna Loa Volcano
สถานที่ : ฮาวาย สหรัฐอเมริกา
ปะทุครั้งล่าสุด : 24 มีนาคม – 15 เมษายน 1984
เมานาโลอา มาจากภาษาฮาวายแปลว่า “Long Mountain” มีเนื้อที่กว่า 5,180
ตารางกิโลเมตร สูงถึง 4,170 เมตร มีอายุอย่างน้อย 700,000 ปี
ระเบิดมาแล้วทั้งสิ้น 33 ครั้ง อยู่ใกล้กับที่อยู่อาศัยของประชากร
อีกทั้งภูเขามีรูปร่างเหมือนโล่ และลาวามีความหนืดต่ำ
ถึงแม้ว่าแรงระเบิดในบางครั้งจะไม่รุนแรงถึงขั้นเต็มแม็กก็เถอะ
แต่มันก็ทำให้เกิดไฟไหม้ และลามไปเผาบ้านของประชากรที่อยู่แถวนั้นๆ
ให้วอดวายได้เป็นแถบๆ เหมือนกัน
9. Taal Volcano
สถานที่ : เกาะลูซอน ฟิลิปปินส์
ปะทุครั้งล่าสุด : ปี 2013
ภูเขาไฟตาอัล เป็นแอ่งภูเขาไฟรูปกระจาด ตั้งอยู่กลางทะเลสาบตาอัล
ห่างจากกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์เพียงแค่ 50 กิโลเมตรเท่านั้น
ภูเขาไฟตาอัลระเบิดมาแล้วกว่า 30 ครั้ง และเมื่อปี 2001 มีสัญญาณการปะทุ
เกิดการสั่นสะเทือน น้ำในปล่องเดือดปุดๆ
พร้อมกับแม็กม่าที่เกือบจะพุ่งขึ้นมา ตามด้วยก๊าซคาร์บอน
จนรัฐบาลต้องประกาศให้ประชาชนที่อาศัยอยู่แถบนั้นราวๆ 7,000 คน
ให้รีบอพยพโดยด่วน แต่หากมีประชาชนเพียงแค่ 200 คน เท่านั้นที่ตื่นตัว
ส่วนที่เหลือนอกนั้นนอนแคะขี้มูกสบายใจเฉิบ ซึ่งไม่รู้ว่า
ถ้ามันเกิดระเบิดขึ้นมาจริงๆ ขึ้นมาแล้ว 6,800
คนที่เหลือเขาจะหนีทันหรือเปล่านะเนี่ย ล่าสุดปี 2013
มีรายงานว่ามีการสั่นสะเทือนถี่ขึ้น แต่ยังไม่มีสัญญาณใดที่จะบอก
ว่าภูเขาไฟตาอัลจะเกิดระเบิดขึ้นในเร็วๆ นี้
8. Ulawun Volcano
สถานที่ : ปาปัวนิวกินี
ปะทุครั้งล่าสุด : 2013
ภูเขาไฟ Ulawun ตั้งอยู่บนเกาะนิวบริเทน ปาปัวนิวกินี มีความสูง 2,344 เมตร
มีบันทึกการปะทุ 22 ครั้ง เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เกิดการระเบิดลูกย่อมๆ
อยู่บ่อยครั้ง และปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ออกมาประมาณ 7 กิโลกรัม
ซึ่งคิดเป็น 2% ของก๊าซที่ปล่อยออกมาทั้งหมดทั่วโลก
โดยที่ก๊าซตัวนี้ถ้ามีปริมาณเข้มข้นจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
พืชและสัตว์ล้มป่วย ฝนที่ตกลงมามีความเป็นกรดสูง
และก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ทางเดินระบบหายใจ โรคปอด หลอดลมอักเสบ
และถ้าสารนี้เข้มข้นมากถึงมากที่สุด ก็อาจเสียชีวิตเพียงแค่ ซู้ดดด! เข้าไป
7. Mount Nyiragongo
สถานที่ : สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
ปะทุครั้งล่าสุด : 2013
ภูเขาไฟเนียรากองโก หนึ่งในแปดภูเขาไฟในเทือกเขาวิรุงกา (Virunga
Mountains) ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติวิรุงรังกา ห่างจากเมือง Goma
ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกไปเพียง 20 กิโลเมตร มีฉายาว่าทะเลสาบลาวา
(Lava Lake) เพราะมีลักษณะเป็นภูเขาชัน ตรงกลางมีแอ่งขนาดใหญ่คล้ายทะเลสาบ
โดยเริ่มระเบิดตั้งแต่ปี 1882 ซึ่งระเบิดมาแล้ว 34 ครั้ง
ครั้งที่ใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2002 ลาวาเดือดๆ
ไหลทะลักเข้าหลอมเมืองกว่า 40% ของพื้นที่ ประชาการ 120,000 คน
กลายเป็นคนไร้บ้าน อีก 500,000 คน ต้องอพยพกันจ้าละหวั่น
นับตั้งแต่ครั้งนั้นภูเขาไฟเนียรากองโกยังคงมีสัญญาณการปะทุเรื่อยมาจนถึง
ทุกวันนี้
6. Mount Merapi
สถานที่ : อินโดนีเซีย
ปะทุครั้งล่าสุด : มีนาคม – เมษายน 2014
ภูเขาไฟเมราปี เป็นภูเขาไฟรูปกรวยตั้งอยู่บนพรมแดนระหว่าง Java และ
Yogyakarta ประเทศอินโดนีเซีย
ซึ่งบริเวณตีนภูเขานั้นยังมีประชาชนอาศัยอยู่หลายพันคน
ภูเขาไฟเมราปีเริ่มปะทุครั้งแรกเมื่อปี 1548
และยังคงปะทุเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนั้นยังเป็นภูเขาไฟที่ผลิตสาร
Pyroclastic มากที่สุดในโลก ซึ่งสารตัวนี้ประกอบไปด้วยขี้เถ้าร้อน ก๊าซพิษ
และเศษหิน และที่สำคัญ อันตรายกว่าการไหลของลาวาเยอะ
5. Galeras
สถานที่ : โคลัมเบีย
ปะทุครั้งล่าสุด : 2010
ภูเขาไฟกาเลรัส มีอายุ 1 ล้านปี เป็นอย่างน้อย
การระเบิดครั้งแรกถูกบันทึกไว้ในวันที่ 7 ธันวาคม 1580 ภูเขาไฟ Galeras
ตั้งอยู่ในภาคใต้ของโคลัมเบียใกล้กับชายแดนเอกวาดอร์ มีความสูง 4,276
เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้กับเมือง Pasto
ที่มีประชากรอาศัยอยู่บนเนินทางทิศตะวันออกของ ภูเขาไฟ Galeras ประมาณ
450,000 คน โดยความอันตรายของภูเขานี้คือการระเบิดแบบไม่คาดคิด
คำนวณรอบในการระเบิดไม่ค่อยจะได้ การระเบิดในปี 2010
ต้องอพยพประชากรที่เสี่ยงต่อการระเบิดถึง 8,000 คน
แต่ชาวบ้านแถวนั้นปฏิเสธที่จะอพยพ เพราะบอกว่าของแบบนี้มันเคยๆ กันอยู่
เจอกันจนชินละ
4. Sakurajima
สถานที่ : ญี่ปุ่น
ปะทุครั้งล่าสุด : 2013
ถึงแม้จะดังไม่เท่าภูเขาไฟฟูจิ
แต่ภูเขาไฟซากุระจิมะก็ขึ้นชื่อว่าเป็นภูเขาอันตรายเลยทีเดียว
ภูเขาไฟซากุระจิมะตั้งอยู่บนเกาะคิวชู มีความสูงอยูที่ 1,117 เมตร
ซึ่งการประทุในแต่ละครั้งจะพ่นเถ้าถ่านขึ้นมาหลายกิโลเมตร
เป็นอันตรายต่อประชาชนที่อยู่อย่างหนาแน่นรอบเมืองคาโกชิมะ
ที่อยู่ห่างจากภูเขาไฟซากุระจิมะไปไม่ถึงกิโลเมตร
การปะทุครั้งล่าสุดคือเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2013
เกิดการปะทุขึ้นอย่างรุนแรงเถ้าถ่านภูเขาไฟลอยสูงขึ้นไปในอากาศกว่า 5,000
เมตร มีหินภูเขาไฟกระเด็นกระดอนมาไกลกว่า 1,800 เมตร
ลาวาทะลักออกมาเป็นทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ซึ่งสำนักข่าว NHK ของญี่ปุ่น
รายงานว่าเป็นการพ่นเถ้าถ่านที่สูงที่สุดทลายสถิติที่นับกันมาตั้งแต่ปี
1955 ทำให้ชาวเมืองต้องรีบหาหน้ากากมาป้องกันกันให้ว่อง
เพราะควันจากภูเขาไฟหนาแน่น
เสมือนเมืองทั้งเมืองกำลังถูกรมควันอยู่อย่างไงอย่างงั้นแหละ
3. Popocatépetl
สถานที่ : เม็กซิโก
ปะทุครั้งล่าสุด : 2005 to 2014
เป็นภูเขาขนาดใหญ่ปกคลุมด้วยธารน้ำแข็ง ซึ่งมีความสูงถึง 5,426 เมตร
อยู่ห่างจากเมืองหลวงไปทางทิศตะวันออกเพียงแค่ 40 กิโลเมตร
และยิ่งทวีความอันตรายเข้าไปอีกเมื่อเมืองนั้นมีประชากรอาศัยยัดเยียดกว่า 9
ล้านคน แม่เจ้า! จะแน่นไปมั้ย...
โดยการระเบิดครั้งใหญ่ครั้งล่าสุดคือเมื่อปี 2000
แต่โชคดีที่นักวิทยาศาสตร์สามารถเตือนรัฐบาลให้อพยพประชาชนจำนวน 41,000 คน
ที่อยู่ในรัศมีการระเบิดให้โกยหน้าตั้งกันได้สำเร็จ
2. Mount Vesuvius
สถานที่ : อิตาลี
ปะทุครั้งล่าสุด : 1944
ภูเขาไฟวิสุเวียส ตั้งอยู่ในอ่าวเมเปิลส์ ประเทศอิตาลี
ห่างจากฝั่งซึ่งเป็นที่พักอาศัยของประชาชนเพียง 9 กิโลเมตร
มีประชากรอาศัยแน่นเอี๊ยดถึง 3,000,000 คน การระเบิดครั้งใหญ่สุดคือเมื่อปี
ค.ศ. 94
แรงระเบิดที่รุนแรงทำให้เมืองปอมเปอีทั้งเมืองล่มสลายจากเมืองแห่งความ
ศิวิไลซ์ กลายเป็นซากปรักหักพังไปในบัดดล และการระเบิดในวันที่ 18 มีนาคม
1944 มีควันเถ้าถ่านภูเขาไฟพุ่งทะยานสู่ท้องฟ้าสูงถึง 1,000 เมตร
ภูเขาไฟวิสุเวียสจะมีการระเบิดครบรอบทุกๆ 20 ปี
นับว่ายังโชคดีที่ที่ปีผ่านมายังไม่มีการระเบิด
แต่ก็ไม่อยากจะคิดว่าถ้ามันเกิดระเบิดขึ้นมาเมื่อไหร่ ประชากรมหาศาล
3,000,000 คนนั้น มันจะหนีกันยังไงว้า
1. Yellowstone Caldera
สถานที่ : สหรัฐอเมริกา
ปะทุครั้งล่าสุด : 600,000 ปี ก่อน
เยลโลว์สโตน คาลเดอรา ถูกยกให้เป็นซูเปอร์ภูเขาไฟ
เพราะมันทั้งใหญ่และอันตรายที่สุดถึงที่สุดในโลก
โดยตั้งตระหง่านอยู่ในอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน อายุอานามปาเข้าไป 600,000
ปี ซึ่งถ้าพี่เบิ้มลูกนี้เกิดเดือดขึ้นมา นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า
ระยะเวลาที่พี่แกสะสมไว้ถึง 600,000 ปี นั้นอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ 2 ใน 3
ของสหรัฐฯ นอกจากนั้นการระเบิดของ Yellowstone Caldera
จะเป็นตัวกระตุ้นให้ระเบิดภูเขาไฟอื่นระเบิดตูมต้ามตามมา
นักวิทยาศาสตร์จึงต้องเฝ้าระวังพี่เบิ้มลูกนี้ไว้ไม่ให้คลาดสายตาเลยทีเดียว
ทั้งหมดคือภูเขาไฟที่นับว่าเป็นอีกหนึ่งความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ
ที่มนุษย์ไม่อาจต้านทาน
เราจึงต้องปรับตัวและเฝ้าระวังอยู่ทุกฝีก้าวอยู่เสมอ
ข้อมูลอ้างอิง :
th-wikipedia
en-wikipedia
marumura.com/news/?id=4226
oknation.net/blog/ravio/2013/01/28/entry-1
wowboom.blogspot.com/2011/03/nyiragongo.html
manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000078104
runamartino.blogspot.com/2011/06/yellowstone-national-park.html
smashinglists.com/10-most-dangerous-active-volcanoes-on-earth/
Photo Credits :
Wikipedia
world.kapook.com
ที่มาจาก: http://www.fhm.in.th
ค้นหาอะไรก็เจอ
วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2557
10 ภูเขาไฟ อันตรายที่สุดในสากลโลก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภัยพิบัติ