/*----Yahoo site map-------*/ /*----Bing site map-------*/

ค้นหาอะไรก็เจอ

วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

21/12/2012 วันสิ้นโลกจริงหรือ?

มีคำทำนายที่ว่า ในปี 2012 โลกจะแตก หรือเป็นวันสิ้นโลก พร้อมกับมีหนังสือหลายเล่มและสื่อหลายแขนงออกมาให้ข้อมูล บทความ และการแสดงความคิด ความเห็น ทั้งสนับสนุนและวิพากษ์วิจารย์กันอย่างกว้างขวาง ทำให้คนทั่วโลกมีโอกาสรับรู้ถึงเหตุผลจากคำทำนายดังกล่าวซึ่งเป็นของชาวมายา ชนเผ่าเก่าแก่ที่มีความแม่นยำในเรื่องของดาราศาสตร์ และระบบสุริยะ คำพยากรณ์ของชาวมายาได้จากการสังเกตุการณ์ทางดาราศาสตร์เป็นเวลานานกว่า 2,000 ปี กล่าวว่า เที่ยงคืนวันที่ 21/12/2012 จะเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ ที่จะมาพร้อมกับเลือดและความทรมาน รวมทั้งความหวังและอนาคต มีทฤษฎีเสริมคำทำนายอีกว่า ปี 2012 จะเป็นปีอันสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นปีที่เกิดกลียุค หรือเป็นจุดเริ่มต้น สิ่งที่เกิดขึ้นจะไม่มีเหตุการณใดในประวัติศาสตร์มนุษย์เทียบได้เลย

ดูจากสภาพปัจจุบันของโลกว่า มีภัยคุกคามอันเนื่องมาจากภาวะความเปลี่ยนแปลงของดิน ฟ้า อากาศ หรือภัยคุกคามจาก "ภาวะโลกร้อน"ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ระดับแนวหน้าของโลกหลายรายเช่น ดร.เจมส์ อี.เลิฟล็อค (Dr.James Ephraim Lovelock ) ได้พยายามอธิบายภาพจินตนาการต่าง ๆ ตามที่เขาคาดการณ์เอาไว้ในหนังสือของตนและพิมพ์เผยแพร่เมื่อปี ค.ศ.2006 ว่า "ในอนาคตอันใกล้จะเกิดความเลวร้ายต่อโลกของเรา อย่างน้อยก็มากกว่า 2 เท่าจากที่เคยเกิดขึ้นในยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้าย การโจมตีกลับของธรรมชาติครั้งนี้ จะรุนแรงกว่ายุคที่เคยเชื่อกันว่า ได้ทำให้มนุษย์นีแอลด์เดอร์ธัล ซึ่งเคยมีชีวิตอยู่ก่อนมนุษย์เรา ต้องสูญพันธุ์มาแล้ว.."

สภาพของโลกที่ ดร.เจมส์ คาดการณ์ต่อไปว่า "มันจะเกิดยุคแห่งความร้อน ที่จะร้อนกันชนิดโลกทั้งโลกปราศจากน้ำแข็งแทบโดยสิ้นเชิง และสิ่งที่จะตามมาอย่างไม่น่าเชื่อหรือคาดไม่ถึง คือ พายุร้ายที่จะทวีความรุนแรงสุดขีดและมีอันตรายถี่ยิ่งขึ้นๆ ปริมาณป่าฝนหลายต่อหลายพื้นที่ในโลก จะถูกแปรสภาพให้กลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมโดยเฉียบพลัน สลับกับการเป็นพื้นที่ที่แห้งผากแบบเดี่ยวกับทะเลทรายใจกลางทวีปออสเตรเลีย ณ เวลานั้น ประชากรโลกนับพัน ๆล้านคน จะไร้ที่อยู่อาศัย ไร้ที่ทำกิน ไร้อาหารอย่างที่ไม่มีใครช่วยเหลือได้ จะต้องล้มตายลง หลังจากนั้น โลกจะร้อนจัดหรือหนาวจัดอีกเพียงใดยากที่จะทำนายได้ สุดท้ายโลกใบนี้จะไม่มีทางกลับมาเป็นโลกที่ให้ความสุข ความสงบ ความร่มเย็นได้อย่างที่เราเคยรู้จักอีกต่อไป "

ส่วนนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกอีกท่านคือ ดร.เดวิด นาบาร์โร ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาด แห่งองค์การอนามัยโลก ออกมาสรุปไว้ตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 2003 " ภายในศตวรรษนี้..ประชากรโลกจะต้องเผชิญกับโรคระบาดทั้งโรคแบบใหม่และโรคระบาดแบบเดิมที่จะกลับมาระบาดใหม่ ไม่น้อยกว่า 180 ชนิด ถ้าหากไม่สามารถควบคุมได้ อานุภาพในการสังหารของมันจะร้ายแรงและสามารถคร่าชีวิตผู้คนได้อย่างมหาศาล.."

การประชุมว่าด้วยสภาวะโลกร้อน ในปี ค.ศ. 2001 นายร็อบ วัตสัน ประธาน IPCC ได้วาดภาพจินตนาการให้บรรดาผู้นำประเทศต่าง ๆที่เข้าร่วมประชุมเห็นว่า "ในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า..ประชาการแทบทุกพื้นที่ในโลกนี้จะต้องเผชิญกับภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่ และการแพร่กระจายของโรคระบาด..ความเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศในโลก จะนำมาซึ่งหายนะต่อมวลมนุษยชาติอย่างไม่อาจประเมินได้ .."

ปรัชญาชาวตะวันออกเช่น อี้จิง ซึ่งเป็นัมภีร์ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของจีน เทววิทยาแบบฮินดูและความเชื่อของชาวพื้นเมืองต่างๆ สามารถตีความเพื่อสนับสนุนวันสิ้นโลกในปี 2012 ได้

มีการตีความคัมภีร์ไบเบิลที่พยากรณ์ไว้ว่าโลกจะถึงจุดจบในปี 2012 ชาวมุสลิม คริสต์ ยิว จะมีการเคลื่อนไหวเพื่อเข้าสู่สงครามครั้งสุดท้าย
ยังมีข้อมูลที่ได้นำเสนอเป็นบทความ สารคดี ภาพยนต์ ตลอดจนการแสดงความคิดเห็น ข้อเท็จจริงที่สามารถพิสูจน์ยืนยันด้วยกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์อีกมากมาย เผยแพร่ในเว็บไซต์หลายพันหลายหมื่นเว็บไซต์ที่จะสืบค้นนำมาหาคำตอบ แต่ก็ยังมีคำถามของชาวโลกที่ค้างคาใจอยู่อีกว่า " 21/12/2012 จะเป็นวันสิ้นโลกจริงหรือ ? "

1 ความคิดเห็น:

  1. เตือนเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติรุนแรง เริ่มฤดูฝนปี 54 นี้เป็นต้นไป

    http://ufokaokala.com/index.php?PHPSESSID=405b6dca8a7a65d729023f8feb6985ef&topic=2619.0

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภัยพิบัติ

รายงานแผ่นดินไหวทั่วโลก




รายงานแผ่นดินไหวภายในประเทศและใกล้เคียง